Friday, July 24, 2009

แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ คือ แสงนำทางของหัวรถจักร

แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ คือ แสงนำทางของหัวรถจักร

เมื่อวาน พี่มาร์ค ไปแสดงวิสัยทัศน์ ในงานสัมนา "วิกฤตประเทศไทย แสงสว่างปลายอุโมงค์ ของจริงหรือสิ่งลวงตา" ซึ่งฟังไปแล้วก็งั้นๆ สร้างภาพเหมือนเดิม และ ไม่ได้โชว์ วิสัยทัศน์ ของผู้นำแต่ประการใด เพราะทั้งมาร์ค ทั้ง นีโอ เห็นตรงกันว่า แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ มันอาจจะเป็นทางตัน แต่แตกต่างกันที่มุมมอง

ทางออกของวิกฤตที่ปลายอุโมงค์ มันเป็น แค่ โคมไฟ ที่ห้อยไว้ลึกสุดที่ปลายอุโมงค์ ซึ่งขุดต่อไปไม่ได้ แต่มุมมองของ พี่มาร์ค ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะ แสงนั้นมันเป็นแสงไฟนำทางของหัวรถจักร ที่อาจพุ่งเข้าชน ได้

คนไทยทุกคน ต้องการหาทางออกให้แก่ประเทศชาติ ทั้งนั้น เพียงแต่ว่า เราต้องถกเถียงกันว่า หนทางใด ที่เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมมากที่สุด หรือ มีผลกระทบในทางลบ ต่อพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด

เส้นทางที่ พี่ มาร์ค เลือก นั้นมันมีหลักฐานว่า จะนำพาประเทศชาติไปสู่ทางตันมากกว่าทางออก แต่ด้วยความเป็นนักการเมือง พี่มาร์คอาจจะต้องยอมเสียเปรียบบ้างเพื่อให้ประเทศชาติรอดไปได้ ไม่ใช่แค่ พยายามยื้ออำนาจเอาไว้กับตนเอง และ พรรคพวก ให้นานที่สุด

นักวิชาการ ที่ถูก พันธมิตร ล้อเลียน ว่า กลางกลวง หรือ ถูกบังคับให้เลือกข้าง ส่วนใหญ่เห็นตรงกันใน 4 ประเด็นหลักๆ เพียงแต่ว่า จะอธิบายออกมาในรูปแบบไหน เท่านั้น

1.ถ้าไม่สามารถสร้างความสมานฉันท์-ปรองดอง”ขึ้นในชาติโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับรากหญ้า ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา ภาษาใด หรือภูมิภาคใด และในเวลาเดียวกัน ถ้าเราไม่สามารถทำให้บรรดาคนชั้นสูง ชั้นกลาง ที่กุมอำนาจรัฐหรือรัฐบาลสามารถ”เกี๊ยะเซี๊ยะ” ประนีประนอมผลประโยชน์กันได้
2.ถ้าไม่สามารถปฏิรูปรัฐธรรมนูญหรือเขียนขึ้นมาใหม่ให้เป็นของ”สยาม”(ไม่ ใช่”ไทย”)และให้มีเนื้อหาสาระที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยไม่หมกเม็ด ไม่รับใช้หรือซ่อนเร้น ไว้เพื่อประโยชน์ของ "กลุ่มคน" หรือ "หมู่คณะ"
3.ถ้าไม่สามารถทำให้ "สถาบันกษัตริย์" เป็นสถาบันสูงสุด เป็นสถาบันกลางสำหรับการเคารพบูชาโดยประชามหาชนโดยรวม และไม่ถูกนำไปใช้ "อ้าง" และ "อิง" เพื่อประโยชน์ของ "กลุ่มคน" หรือ "หมู่คณะ"
4.ถ้าไม่สามารถทำให้”สถาบันทหาร-พลเรือน-ตุลาการ”เป็นสถาบันของการบริหาร การดำเนิน ที่ปราศจากการเข้าแทรกแซงในทางการเมือง มีความคิดที่เป็นประชาธิปไตย และมีหน้าที่ต่างๆนานาในการป้องกัน พัฒนาประเทศ และดำรงไว้ซึ่งหลักของกฏหมาย และความยุติธรรม

สรุปง่ายๆ ย่อๆ ลงมาคือ เราเชื่อหรือไม่ว่า ต้องแก้ปัญหาที่ 4 ประเด็นหลักๆ คือ

1. คนมีอำนาจ กลุ่มที่นำสังคม ทั้งชนชั้นกลาง และ ชั้นสูง ผลประโยชน์ไม่ลงตัว
2. รัฐธรรมนูญ ปัจจุบัน ไม่เป็นประชาธิปไตย หรือ เป็นประชาธิปไตย ที่ กดขี่ คนบางส่วนของสังคม
3. มีการ “อ้าง” และ “อิง” สถาบันสูงสุดเพื่อ ประโยชน์ ของบางกลุ่ม บางคณะ
4. ยังคงมีการแทรกแทรง "สถาบันทหาร-พลเรือน-ตุลาการ" อยู่ในปัจจุบัน

การที่ คณะกรรมการสมานฉันท์ ได้สรุป วิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้น โดยการเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญแบบ เร่งด่วน 6 มาตรา ซึ่งเชื่อว่า น่าจะช่วยให้เราหันกลับ และ มุ่งหน้าไปยังทางออกที่แท้จริง แต่ได้รับการต่อต้านจากกลุ่ม 40 สว. และ พันธมิตร รวมไปถึงการถ่วงเวลาโดยรัฐบาล เราลองมาดูกันว่า 6 มาตราที่ กรรมการสมานฉันท์ เสนอให้แก้นั้นประกอบไปด้วยข้อใดบ้าง

1. มาตรา 237 ยกเลิกการยุบพรรคและการเพิกถอนสิทธิ หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค โดยให้เพิกถอนสิทธิเฉพาะตัวผู้สมัคร ส.ส. ที่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
2. มาตรา 93-98 เรื่องที่มาของ ส.ส. ให้กลับไปใช้ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 คือใช้ระบบแบ่งเขต เขตละคน และระบบบัญชีรายชื่อ ตามที่ประชาชนคุ้นเคย
3. มาตรา 111-121 เรื่องที่มาของ ส.ว. ให้ใช้ตามรัฐ-ธรรมนูญปี 2540 คือให้มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น
4. มาตรา 190 การทำหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา ให้กำหนดประเภทหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา
5. มาตรา 265 ให้ ส.ส.ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ อาทิ เป็นเลขานุการหรือที่ปรึกษารัฐมนตรีได้
6. มาตรา 266 การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนของ ส.ส.และ ส.ว. ให้ ส.ส.และ ส.ว.เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาของประชาชนผ่านส่วนราชการได้

การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เร่งด่วน 6 ประเด็นนี้ จะลดความขัดแย้ง ของสังคมลงทันที ทั้งในข้อ 1 และ ข้อ 2 คือ ตัวแทนของประชาชน ที่ประชาชนต้องการ จะได้มีโอกาส กลับ มาต่อรองผลประโยชน์ เพื่อประชาชน และ จะเป็นจุดเริ่มต้น เพื่อ นำไปสู่การแก้ไข รัฐธรรมนูญ ให้เป็นประชาธิปไตย ที่ไร้การกดขี่ กันเองในสังคมไทย

เริ่มต้นด้วยการแก้ไข รัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นนี้ ตามมาด้วยการ รณรงค์ให้ เลิก อ้าง อิง สถาบันเบื้องสูง ทางการเมืองในทุกรูปแบบ จากนั้นจึงค่อยๆ ปฏิรูป สถาบันการเมือง-ทหาร-ตุลาการ ไปพร้อมๆกัน จึงจะเป็นทางออก ของวิกฤตการเมืองในประเทศไทยอย่างแท้จริง


อ้างอิง
"มาร์ค"เผยโดนทหารติงพรรคพวกจ้องเล่นงาน"แม้ว" ปัดแค้นใครแต่ต้องหยุดคนเหนือกม.
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1248361494&grpid=02&catid=01

"ชาญวิทย์" แนะ4ประการทำไม่ได้ ยากหลีกเลี่ยง "กาลียุค"
http://special.bangkokbiznews.com/detail.php?id=7124&username=politic

ฝ่าวิกฤตการเมืองไทย
http://www.kriengsak.com/index.php?components=content&id_content_category_main=23&id_content_topic_main=51&id_content_management_main=1974

ดร.อมร เสนอทางออกวิกฤตการเมืองไทยต้องปลดปลาย่างที่แขวนล่อแมวหรืออำนาจผูกขาดทางการเมืองออกเสียก่อน
http://www.raja.co.th/show.php?id=89

อภิสิทธิ์เชื่อเศรษฐกิจไทยเป็นบวกในสามปีข้างหน้า
http://www.komchadluek.net/detail/20090723/21611/%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2.html

ธเนศวร์ เจริญเมือง : วิกฤตการเมืองไทย พ.ศ. 2549-2552 ผลพวงของระบอบรัฐในอดีต
http://www.prachatai.com/journal/2009/05/23903

No comments:

Post a Comment