Tuesday, June 16, 2009

การเมืองภาคประชาชน คนเสื้อแดง

เมื่อ คนเสื้อแดง ต้องเริ่มต้นใหม่

ศึกครานี้ คงไม่อาจจบลงด้วยเวลาอันใกล้ เมื่อผู้นำฝ่ายตรงข้าม เป็นถึงอดีต เพชฆาตหน้าหยก และ ปัจจุบันยังไม่มีอาการเพลี่ยงพล้ำ ให้แก่ นักรบเสื้อแดงแต่ประการใด ถึงเวลาที่คนเสื้อแดงจะต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์ ในการกรำศึก เปลี่ยนจาก ชนบทล้อมเมือง โลกล้อมประเทศไทย มาเป็น ยุทธศาสตร์ การศึกแบบพอเพียง

ผู้เขียนเกรงว่า แนวร่วมเสื้อแดง หรือ ท่านที่มีใจกับคนเสื้อแดงจะเข้าใจผิด คิดว่า ผู้เขียนเอาแนวทางพระราชดำริมาล้อเลียน ซึ่งไม่ได้เป็นเช่นนั้น ผู้เขียนกำลังจะอธิบายในรายละเอียดให้ฟัง ยุทธศาสตร์การทำศึกแบบพอเพียง พอเพียงในที่นี้คือไม่สุดโต่งจนเกินไป และไม่ให้ หล่ะหลวมจนเกินไป เพื่อให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข็มแข็งจากภายใน และสามารถที่จะยืนอยู่บนฐานที่มั่นคง ดังนี้

ประเด็นที่ใช้ จะต้องไม่สุดโต่งจนเกินควร เช่น เรื่องคนตาย หากไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีศพ หรือ พบว่าใครตาย ก็ อย่าได้สรุปว่าตาย ให้หันไปเล่นเรื่อง นโยบายการหารายได้เข้ารัฐ ของรัฐบาล หรือไปเล่นเรื่องการทุจริต หรือเรื่องของความผิดพลาดทางกฎหมาย ของรัฐ หรือ แนวร่วมฝ่ายรัฐ

แนวทางที่เดิน ก็ไม่ควรที่จะเดินจนสุดโต่ง เช่น การจะใช้พรรคคอมมิวนิสนำหน้า หรือ จะใช้ทุนนิยมเสรี จนเอียงเกินไป อย่าให้ความสำคัญแก่ แนวร่วมไม่เท่ากัน พึงให้ความสำคัญ กับ royalist ให้มากเท่ากับ communist และให้ความสำคัญ อาวุโส ให้เท่ากับ เลือดใหม่

แนวร่วมที่สร้าง ก็ ไม่ควรเอนเอียง ยังไงซะ แดงรวย แดงไม่รวย ย่อมต้องมีค่าสำหรับเป้าหมายที่ต้องการ จะต้องไม่เปิดศึกหลายทาง อย่าไปดึงคนทำมาหากินมาเป็นข้อต่อรอง อย่าไปเรียกร้องให้ บอยคอต สินค้าของใครต่อใคร ให้ใช้ความอดทน อธิบาย และใช้จุดมุ่งหมายเพื่อชี้แจง ให้ซื้อใจด้วยเหตุและผล

ความเคลื่อนไหวต้องมีแกนนำรับรอง แกนนำต้องมาจากทุกฝ่าย แกนนำต้องฟังแนวร่วมรอบด้าน

อย่าคิดเผด็จศึกเร็ว แต่ ต้องไม่ประมาท

และ สุดท้าย แนวร่วมที่จะเข้ามา พึงยืนอยู่บนความบริสุทธิ์ใจ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

หากทำได้ดังนี้ ผู้เขียนเชื่อว่า สถาบันคนเสื้อแดงเพื่อพัฒนาการเมืองภาคประชาชน จะเกิดขึ้นบนรากฐานที่มั่นคง มีแนวร่วมที่มีคุณภาพ ในปริมาณมาก และหยั่งรากลึกในสังคมไทย

เมื่อคนเสื้อแดง บริสุทธิ์ใจ กรณี ที่ สื่อ ควรรับทราบ

หากเราไปเหมาเอาเองทั้งหมดว่า คนเสื้อแดงทั้งหมด หรือ ความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงทั้งหมด คือ ตัวแทนของทักษิณ คือ ระบอบทักษิณที่พยายามหวนคืนสู่อำนาจ เราคงจะเห็นแก่ตัวเกินไปหน่อย หากเราติดใจเพียงประเด็นที่เกี่ยวกับทักษิณ จนลืมมองถึงความเคลื่อนไหวอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นผลดีแก่ประเทศชาติ และประชาชนจำนวนมาก เราคงจะเห็นแก่ตัวกันจริงๆ

ในความเป็นจริง แน่นอนว่ามีคนเสื้อแดงที่ชอบ และ ศรัทธรา ทักษิณ แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด คนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุม โดยไม่ได้ใส่ใจเรื่องทักษิณ ก็ มีอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย หลายคนไม่สนใจว่า ทักษิณ จะกลับมาเป็นนายกอีกหรือไม่ หลายคนไม่ใส่ใจว่า ทักษิณ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป และก็เป็นความจริงที่คนเสื้อแดงเหล่านี้ มีอยู่ จริง

จุดยืนของพวกเขาเป็นเรื่องของการ ต่อต้านการทำรัฐประหาร การยึดอำนาจ การใช้อำนาจนอกระบบ และ การฉีกรัฐธรรมนูญ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สมควรเกิดขึ้นอีกในสังคมไทย การทำรัฐประหาร ยึดอำนาจ เป็นการใช้ความรุนแรงอย่างหนึ่ง แม้จะไม่มีคนเสียชีวิต แต่เราก็ ปฏิเสธไม่ได้ ในหลักการว่า เราทำผิดกฏหมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ และในกรณีนี้ ก็ไม่ทำให้เราแตกต่างจาก คนที่เรากล่าวหา ว่า ได้อำนาจมาโดยมิชอบ ได้อำนาจมาโดยการซื้อเสียง

จุดยืนของพวกเขาเป็นเรื่องของความชอบธรรมในการตั้งรัฐบาล และ ความชอบธรรมในการเลือกตัวแทนของพวกเขา การตัดสินใจของพวกเขาควรได้รับความเคารพ ควรได้รับความใส่ใจ ซึ่งไม่สมควรจะถูกล้มล้าง โดยบุคคล หรือ ชนชั้นกลางระดับหนึ่งในเมือง พวกเขาควรจะมี สิทธิเท่าเทียมกับผู้อื่นในการกำหนดทิศทางของประเทศชาติ รูปแบบการดำเนินชีวิต พวกเขาควรจะมีสิทธิ ที่จะเลือก สส. มาเป็นตัวแทนของเขา และเลือก สว. ของเขา มาทำหน้าที่แทนเขา เพื่อที่จะนำไปสู่ การสรรหา องค์กร อิสระที่มีที่มาอย่างโปร่งใส และ เป็นประชาธิปไตย และ ไม่ว่ารัฐบาลจะเข็มแข็งเช่นไร ก็ ยังต้องคืนอำนาจสู่ประชาชน ทุกๆ 4 ปี

จุดยืนของพวกเขาเป็นเรื่องของ ความยุติธรรม ในการบังคับใช้กฏหมาย เป็นเรื่องของการพัฒนากฏหมายให้เป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ เช่นประเด็นการบังคับใช้กฏหมายย้อนหลัง ประเด็นการลงโทษผู้ที่ไม่ได้กระทำผิดและไม่ได้รู้เห็นเป็นใจร่วมไปกับผู้ที่กระทำผิดบางคน

จุดยืนในเรื่องของสิทธิในการแสดงออกโดยไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน

จุดยืนในเรื่องของพื้นที่สื่อ เพื่อให้มีโอAlign Leftกาสที่จะเลือก โดยไม่ถูกยัดเยียด

จุดยืนในการแสดงความจงรักภักดีโดยไม่ต้องกล่าวอ้าง และ ไม่ใช้ความจงรักภักดีเพื่อประหัตประหารกันทางการเมือง

หลักการในการพัฒนาการเมืองภาคประชาชน ของคนเสื้อแดง ไปไกลเกินกว่า ทักษิณ และ พัฒนาเกินกว่าการนำระบอบทักษิณกลับมา ถึงแม้เป็นข้อเรียกร้องที่ บริสุทธิ์ใจ ของคนเสื้อแดงบางกลุ่มก็ตาม ทั้งนี้ ในขณะที่ข้อเท็จจริงยังคงต้อง มีการพิสูจน์กันต่อไป ว่า ใครสร้างความรุนแรง ใครฆ่าคนตายที่นางเลิ้ง ใครเผามัสยิด สื่อมวลชน จะมีส่วนสำคัญ ในการช่วยคลี่คลาย สถานการณ์ ผ่อนหนักเป็นเบา สร้างความสมานฉันท์โดยการเปิดพื้นที่สื่อให้ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน แสดงความเป็นมืออาชีพของสถาบันสื่อ

อย่าให้เงาของทักษิณ คอย ตามหลอกหลอนคุณตลอดไป

คนเสื้อแดง และ อุปสรรคที่ขวางกั้น

เมื่่่อ พันธมิตร อ้างความชอบธรรมในการต่อต้าน ทุนสามานย์ หรืออะไรก็ตามที่กล่าวหาว่า เป็น ระบอบทักษิณ แท้ที่จริงแล้ว ระบอบทักษิณ เป็นเพียงข้อกล่าวหาเลื่อนลอย โดยเฉพาะเจาะจงเพียงแค่ ทักษิณ ครอบครัว และ บริวาร แต่กลับเปิดโอกาศให้ ให้กลุ่มทุนอื่นๆย้ายข้าง พร้อมทั้งยังช่วย หาข้อแก้ตัว ให้ด้วยว่า กลับใจ

วันนี้ สิ่งที่เราสังเกตุได้ชัดเจน ว่า กลุ่มทุนสามานย์ ไม่ได้หายไปไหน และยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรม เพียงแค่ย้ายข้างเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ ในโลกทุนนิยมเสรี ที่ กลุ่มทุนย่อมต้องหาทางรอดในสังคมให้แก่ตนเองได้เสมอ พฤติกรรมที่ไม่เปลี่ยนแปลง ในเวลาที่ พันธมิตรกล่าวหาว่า เป็นทุนสามานย์นั้น กลับไปหนุน กลุ่มทุนอุบาทว์ หรือที่คนเสื้อแดง สรุปเรียกสั้นๆว่า อำมาตยาธิปไตย

ผู้เขียนต้องขออนุญาติชี้แจงก่อนเพื่อความเข้าใจ คำว่า อำมาตยาธิปไตย ของเสื้อแดง เป็นคำเปรียบเทียบ ซึ่ง แบ่งออกเป็นสองลักษณะ

อำมาตยาธิปไตย แบบทั่วไป คือ ข้าราชการ ราชนิกูล ประชาชนธรรมดา นักวิชาการ นักการเมือง ซึ่ง สนับสนุน ระบอบศักดินา และ สนับสนุนพระมหากษัตริย์ โดยใช้อำนาจหน้าที่ อย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมา ไม่ฝักไฝ่การเมือง และ ยังยอมรับ ในระบอบประชาธิปไตย เคารพและให้เกียรติ ความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่

อำมาตยาธิปไตย แบบที่คนเสื้อแดงต่อต้าน คือ ข้าราชการ ราชนิกูล ประชาชนธรรมดา นักวิชาการ นักการเมือง ซึ่ง สนับสนุน ระบอบศักดินา และ สนับสนุนพระมหากษัตริย์ โดยใช้อำนาจหน้าที่ และ ศักดิ์ ที่ได้รับพระราชทาน โดยมิได้คำนึงถึงความเหมาะสม ในทางการเมือง แสดงตัวเลือกข้าง เชียร์ และ ฝักไฝ่ในนักการเมือง ซึ่งขัดกับ หลักในการดำรงตน และ ปฏิบัติหน้าที่ ตามที่ได้รับพระราชทาน รวมไปถึง การอ้าง ศักดิ์ โดยการกระทำ เพื่อให้เกิดประโยชน์ แก่พรรคการเมือง ข้าราชการที่ต้องเติบโต และ ธุรกิจ อีกทั้งยังถูกนำไปใช้ หรือ อ้างอิง ในการกระทำที่ขัดกับหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ทุนอุบาทว์ หรือ อำมาตยาธิปไตย แบบที่คนเสื้อแดงต่อต้าน มีมาช้านานหลายชั่วคน และได้เงียบหายไปในช่วงที่ทักษิณเป็นรัฐบาล เราคงจะไม่ไปแยกแยะในรายละเอียด ในเวลานี้ ว่า อำมาตย์คนไหน เป็น มือเป็นเท้าให้กลุ่มทุนอุบาทว์ แต่สิ่งที่คนเสื้อแดงส่วนใหญ่รับทราบ และชัดเจน คือ มี อำมาตย์ผู้มีบารมี อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร ซึ่งอ้างอิงจาก การเปิดเผย บทสัมภาษณ์ ของ สุใส และ เทปบันทึก ของแป๊ะลิ้ม ที่ อเมริกา อีกทั้งยังมีภาพข่าว ออกทีวี เรื่องการวางตัว ฝักไฝ่ นักการเมือง โดยการ เชียร์ ในที่สาธารณะ ผ่านสื่อ

เมื่อทุนสามานย์ หรือ ระบอบทักษิณ ที่ถูกกล่าวหา ส่วนหนึ่งได้เปลี่ยนข้าง แต่ ไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ไปรวมกับ ทุนอุบาทว์ ซึ่งมีมาช้านาน และต้องการที่จะกลับสู่อำนาจ ย่อมต้องเป็นความชอบธรรม ของ คนเสื้อแดง ที่จะต้อง ต่อต้าน ผลักดันให้พวกเขาเหล่านั้น เปลี่ยนแปลง แก้ไข และทำประโยชน์ เพื่อประเทศชาติ และ ประชาชนอย่างแท้จริง

ความท้าทาย สำหรับคนเสื้อแดง และ การพัฒนาให้เป็นไปในรูปแบบ ของสถาบันเพื่อการพัฒนาการเมืองภาคประชาชน ย่อมต้องหนีไม่พ้น

สื่อ ซึ่งพึ่งพาแทบไม่ได้เลยในยุค อภิสิทธิ์ชน ยุคนี้

พรรคการเมืองโบราณ ซึ่งคอยทำหน้าที่ขัดแข้งขัดขา การพัฒนาการเมืองภาคประชาชน และคอยรับใช้ กลุ่มทุนอุบาทว์ อย่างชัดเจน

กลุ่มทุนสามานย์ ซึ่งปัจจุบัน แอบอิงภายใต้อำนาจของอำมาตยาธิปัตย์ ย่อมต้องไม่อยากเปลี่ยนข้างบ่อย และความกลัว ซึ่งจะมีผลกระทบ โดยตรง และโดยอ้อมต่อ ความมั่งคั่ง และ อำนาจในการต่อรองที่ได้รับ

กลุ่มทุนอุบาทว์ หรือ อำมาตยาธิปัตย์ ซึ่งใช้อำนาจหน้าที่ และ ศักดิ์ ที่ได้รับพระราชทาน โดยมิได้คำนึงถึงความเหมาะสม ในทางการเมือง แสดงตัวเลือกข้าง เชียร์ และ ฝักไฝ่ในนักการเมือง ซึ่งขัดกับ หลักในการดำรงตน และ ปฏิบัติหน้าที่ ตามที่ได้รับพระราชทาน รวมไปถึง การอ้างศักดิ์ โดยการกระทำ เพื่อให้เกิดประโยชน์ แก่พรรคการเมือง ข้าราชการที่ต้องเติบโต และ ธุรกิจ อีกทั้งยังถูกนำไปใช้ หรือ อ้างอิง ในการกระทำที่ขัดกับหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อำมาตยาธิปัตย์ นั้น พร้อมเพียงกว่า ด้วย อาวุธ อำนาจการทำลายล้าง อำนาจในการสังหาร และ ปราบปราม

คนเสื้อแดง และ แนวร่วม พึงตระหนักในอำนาจ และ บารมี ที่คนเหล่านี้มี แล้วพึงขยายแนวร่วม พร้อมสร้างสรรค์ สถาบันทางการเมืองภาคประชาชน ที่เข็มแข็ง เพื่อการพัฒนาการเมือง พัฒนาสังคม เศรษฐกิจ ความยุติธรรม เสรีภาพ และเพื่อ สิทธิ ของลูกหลานประชาชนชาวไทย ที่พึงได้รับอย่างเท่าเทียมกัน

อย่าปล่อยให้ความชั่วลอยนวล

แดงอีกครั้งทั้งประเทศ

ในขณะที่แนวร่วมคนเสื้อเหลืองบางกลุ่มกำลังขะมักเขม้น วางแผนการตั้งพรรคการเมืองพันธมิตร หวังจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน แสดงธาตุแท้ ของคนกระหายอำนาจ ตอกย้ำผลประโยชน์ทับซ้อนของการเข้าสู่แนวร่วม คนเสื้อเหลืองที่เคยภาคภูมิใจเป็นหนักหนา เส้นใหญ่ใจสะอาด เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น

"พ่อแม่พี่น้องครับ หากว่าวันหนึ่ง ผมเสียสัตย์รับตำแหน่งทางการเมือง เชิญเอาตีนมาไว้ที่หน้าผมได้เลย"

เป็นคำกล่าวของ สนธิลิ้ม ซึ่งครั้งหนึ่งใช้ในการแสดงความบริสุทธิ์ใจแก่ แนวร่วมทั้งหลายทั้งปวงไม่ให้ต้องกังวลใจ มาวันนี้จะตั้งพรรคการเมือง เพื่อแสวงหาหนทางเข้าสู่อำนาจรัฐ แค่คิดก็ผิดแล้วพี่น้องครับ

ไม่นานมานี้ แนวร่วมของคนเสื้อแดงหลายฝ่ายเริ่มพูดกันอย่างหนักแน่น เรื่องการลดบทบาททักษิณ ให้เป็นเพียงแนวร่วมเหมือนคนอื่นๆเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น นายจาตุรนต์ ฉายแสง และแกนนำอื่นๆ ทั้งยังมี แนวทางว่า

เสื้อแดงต้องเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ประเทศจะเป็นประชาธิปไตยได้ เสื้อทุกสีต้องสู้เพื่อประชาธิปไตย

การลดบทบาทของทักษิณ พร้อมกับการมีจุดยืน ที่จะให้ทักษิณกลับมาต่อสู้คดี เป็นแนวทางที่ทำให้มีพลังสนับสนุนจากหลากหลายมิติ มากขึ้น และจะต้องเปิดทางให้เสื้อสีอื่นๆเข้าร่วมได้ในแนวทาง ที่จะใช้ประชาธิปไตย และ ความยุติธรรม แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับแนวร่วมเหล่านั้น

แนวร่วมที่เกิดจากสหภาพแรงงาน จะต้องได้รับคำอธิบายให้ชัดเจนว่า การต่อสู้เพื่อ ประชาธิปไตย ร่วมกับคนเสื้อแดงที่มีต่อ อำมาตยาธิปไตย นั้น จะช่วยแก้ปัญหาการว่างงานของพวกเขาได้เช่นไร

แนวร่วมจากพี่น้องเกษตรกร แนวร่วมจากสมัชชาคนจน แนวร่วมจากเครือข่ายธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ก็ควรที่จะได้รับคำอธิบายให้ชัดเจน เช่นเดียวกัน การเปิดพื้นที่สื่อให้แนวร่วมต่างๆแสดง อัตภาพ ให้กว้างและลึก ก็จะเป็นการช่วยให้แนวร่วมเข็มแข็งขึ้น ให้เยาวชน และ ตัวแทนสาขาอาชีพ มี บทบาท ในการแสดงออกเพื่อที่จะหาแนวทางการต่อสู้ ซึ่งผสมผสาน จุดมุ่งหมาย ให้เดินหน้าต่อไปด้วยความสามัคคี

เส้นทางของคนเสื้อแดง ชัดเจนว่า ต้องเริ่มต้น บนพื้นฐานของการพัฒนาประชาธิปไตยที่กินได้ และ สร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมไทย และต้องร่วมกันสร้างแนวทางที่จะช่วยให้สังคมไทย เดินหน้าต่อไปด้วยความสงบ สันติิิ

No comments:

Post a Comment