Sunday, June 21, 2009

สมานฉันท์ แท้จริง ต้องมีคนยอม - วันนี้ ข้า ไม่ยอม

สมานฉันท์ แท้จริง ต้องมีคนยอม - วันนี้ ข้า ไม่ยอม

หากเราพูดถึงคนสองคนทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย พอมีคนที่สามมาเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ คนที่สามจึงต้องพยายาม ไกล่เกลี่ย และ แสวงหาจุดร่วมที่คู่กรณีทั้งสองฝ่าย สามารถตกลงยอมกันได้ เพื่อให้คู่กรณี เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คือ วิน-วิน (win-win) ทั้งคู่ ดีไม่ดี ผู้ไกล่เกลี่ยอาจจะวิน ไปด้วย คือ ได้ประโยชน์ไปด้วย เช่น ไม่ต้องมานั่งฟังคนทะเลาะกันอีกต่อไป




ทีนี้เราลองมาดู สถานการณ์ความขัดแย้งในเมืองไทยกันครับ ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น มีสาเหตุเกิดมาจาก อำมาตย์ อภิสิทธิ์ชน อยากกลับมามีอำนาจอีกครั้งโดยการล้ม อำนาจของประชาชน แต่ฝ่ายประชาชนก็ไม่ยอมแพ้โดยง่าย ถึงแม้ จะเป็นฝ่ายที่ยอมเสียเป็นส่วนใหญ่ ตั้งแต่อดีตกาล มาจนถึง ปัจจุบัน ก็ตาม

วันนี้ มีข่าววางระเบิด ที่ สกลนคร ถึง 2 จุด เพื่อขัดขวางการปราศรัยโค้งสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย คนที่เสียประโยชน์โดยตรงเห็นจะเป็น ผู้ สมัคร สส. จากพรรคเพื่อไทย ที่กำลังจะปราศรัย หาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย นอกจากเรื่อง ระเบิดสองจุดแล้ว สิ่งที่น่าสังเกต เห็นจะเป็น จำนวนประชาชนที่ มาเลือกตั้งล่วงหน้ามากเป็นประวัติการณ์

กลับมาที่เรื่องสมานฉันท์ เราต้องถามตัวเองก่อนว่า สิ่งที่เราเรียกร้องตอนนี้ เรา หรือ พวกเรา ซึ่งเป็นประชาชนทั่วไป จะยอมให้ ได้หรือไม่ สิ่งที่เราเรียกร้อง มันเหนือบ่ากว่าแรง และ หรือ เป็นโทษ แก่สังคม และ ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศหรือไม่ เราจะยอมแพ้ให้แก่อำนาจเผด็จการ อำมาตย์ อภิสิทธิ์ชน แบบไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีกครั้งหือไม่

เรื่องแรก คือ การเรียกร้อง ให้มีการแก้ รัฐธรรมนูญ ที่มีที่มาจาก คณะรัฐประหาร ซึ่งเราเรียกร้องให้ มีการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ให้ สว. หรือ สมาชิกวุฒิสภาฯ มาจากการเลือกตั้ง ให้ยกเลิก โทษยุบพรรค ลอง พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ข้อนี้ เราคงยอมให้ไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญปัจจุบัน มีหลายจุด ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย มีที่มาไม่ชอบด้วยระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย แถมยังมีบทอภัยโทษให้ คณะรัฐประหารอยู่อีกด้วย ข้อนี้เรายอมไม่ได้จริงๆ รัฐธรรมนูญต้องแก้

เรื่องที่สอง คือ การเรียกร้องความยุติธรรม ไม่เอาระบบสองมาตรฐาน และ ประชาชนทุกคนย่อมต้องเท่าเทียมกัน หลังจากที่ในหลวง รัชกาลที่ 5 ทรงเลิกทาส เป็นการถาวรแล้ว เราคงมิยอมให้ อำมาตย์ อภิสิทธิ์ชน มีอภิสิทธิ์เหนือประชาชนทั่วไปได้อีก ใครที่ทำผิดกฎหมายย่อมต้องรับผิดชอบในการกระทำโดยเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ ใครยึดสนามบิน ย่อมสมควรรับโทษตามที่กฎหมายกำหนด อย่างยุติธรรมและเท่าเทียมกัน เมื่อคนทั่วไป มี สิทธิในการ อุทธรณ์ ฎีกา ก็ย่อมต้องมีสิทธิ นั้นอย่างเท่าเทียมกัน เรื่องนี้เราคงยอมไม่ได้ เราคงไม่ยอมกลับไปเป็นทาส อำมาตย์ และ อภิสิทธิ์ชน ทั้งในรูปแบบของการใช้ กฎหมาย และ การใช้อำนาจรัฐ คอยควบคุมเราให้ห่างจากสิทธิ และ เสรีภาพอันชอบธรรม

เรื่องที่สาม คือ การเรียกร้อง เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนโดยทั่วไป เมื่อเราเลือกตัวแทนเข้าไปบริหารราชการแผ่นดินให้เรามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เมื่อคนส่วนใหญ่เห็นตรงกัน ก็ไม่สมควรให้ใคร เอารถถัง เอาปืนเอ็มสิบหก มาขับไล่ให้คนที่เราเลือกแล้ว ด้วย เหตุผลทั้งปวง เรื่องนี้ ก็ ยอมไม่ได้อีกเช่นกัน




มีอีกหลายเรื่อง ที่เราเรียกร้อง เมื่อถามว่าใครจะยอมก่อน สังคมจึงจะสงบสุข ก็ได้แต่บอกไปตามตรงว่า วันนี้ประชาชนยอมไม่ได้ เพราะเรายอมมามาก เรายอมให้ ชนชั้นนำสร้างความเสียหายให้ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความชอบธรรม ในสิทธิและเสรีภาพของเราต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่นาทีเดียว สุดท้ายเราเรียกร้องให้ รัฐบาล สมุนอำมาตย์ ญาติ อภิสิทธิ์ชน คืนอำนาจอธิปไตยให้แก่ปวงชนชาวไทย ให้คนไทยทั้งชาติตัดสินกันเอาเอง

ข้าไม่ยอมแล้ว เอ็งต้องยอมบ้าง สมานฉันท์ จึงจะเกิดได้

No comments:

Post a Comment